วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559

การสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย

รตนัตตยาภิถุติ
(การสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย)

พุทธานุสสติ การระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า โดยสรรเสริญพระคุณของพระพุทธเจ้า ๙ ประการ
อิติปิโส ภะคะวา

  • แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
อะระหัง
  • เป็นพระอรหันต์
สัมมาสัมพุทโธ
  • ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง
วิชชาจะระณะสัมปันโน
  • ทรงประกอบด้วยวิชาและจรณะ
สุคะโต
  • เสด็จไปดีแล้ว
โลกะวิทู
  • เป็นผู้รู้แจ้งโลก
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
  • เป็นผู้ฝึกคนที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งไปกว่า
สัตถา เทวะมะนุสสานัง
  • เป็นครูสอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
พุทโธ
  • เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ภะคะวา - ติ
  • เป็นผู้มีโชค ผู้จำแนกธรรม
ธัมมานุสสติ การระลึกถึงคุณพระธรรม โดยสรรเสริญพระธรรมคุณ ๖ ประการว่า
สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม
  • พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว
สันทิฎฐิโก
  • เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นได้เอง
อะกาลิโก
  • ไม่จำกัดกาล
เอหิปัสสิโก
  • เป็นธรรมอัศจรรย์ควรเรียกผู้อื่นให้มาดูได้
โอปะนะยิโก
  • เป็นธรรมควรน้อมเข้ามาปฎิบัติ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ ติ
  • อันวิญญูชนทั้งหลายพึงรู้เฉพาะตน
สังฆานุสสติ การระลึกถึงคุณพระสงฆ์ โดยสรรเสริญคุณของพระสงฆ์ ๙ ประการว่า
สุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
  • พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าปฎิบัติดีแล้ว
อุชุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
  • พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าปฎิบัติตรงแล้ว
ญายะปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
  • พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าปฎิบัติเป็นธรรมแล้ว
สามีจิปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
  • พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าปฏบัติสมควรแล้ว
ยะทิทัง
  • พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าคือใคร
จัตตาริ ปุริสะยุคานิ
  • คือพระอริยบุคคล ๔ คู่
อัฎฐะ ปุริสะปุคคะลา
  • จัดเป็นบุรุษบุคคล ๘
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
  • นี้คือพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า
อาหุเนยโย
  • เป็นผู้ควรของนำมาบูชา
ปาหุเนยโย
  • เป็นผู้ควรของต้อนรับ
ทักขิเณยโย
  • เป็นผู้ควรของทำบุญ
อัญชะบิกะระณีโย
  • เป็นผู้ควรทำอัญชลี
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสา ติ
  • เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.
การระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยนี้ จะสวดเฉพาะภาษาบาลีอย่างเดียวก็ได้ หรือจะสวดแปลเป็นไทยด้วยก็ได้ จุดประสงค์ของการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยนี้ ก็เพื่อทำใจให้เกิดความเลื่อมใสเพิ่มขึ้น ทำใจให้กล้าหาญ ไม่หดหู่ แต่ทำให้จิตใจศรัทธา หนักแน่นและเบิกบานขึ้น

วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559

คำนมัสการพระพุทธคุณเบื้องต้น

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต

  • ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น
อะระหะโต
  • ผู้ไกลจากกิเลส
สัมมาสัมพุทธัสสะ
  • ผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง.
สวด 3 ครั้ง

คำนมัสการพระรัตนตรัย


บูชาพระพุทธเจ้า
อะระหัง สัมมาสัมพุธโธ ภะคะวา,

  • พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นพระอรหันต์,ดับเพลิงกิเลส เพลิงทุกข์สิ้นเชิง,ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง,
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ.
  • ข้าพเจ้าอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ตรัสรู้แล้ว
(กราบ)
บูชาพระธรรม
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม,
  • พระธรรม อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว
ธัมมัง นะมัสสามิ.
  • ข้าพเจ้านมัสการพระธรรม
(กราบ)
บูชาพระสงฆ์
สุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
  • พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าปฎิบัติดีแล้ว,
สังฆัง นะมามิ.
  • ข้าพเจ้านอบน้อมพระสงฆ์
(กราบ)

บทสวดมนต์เพื่อเจริญภาวนา

แท้จริง บทสวดมนต์ในพระพุทธศาสนาทุกบทล้วนแต่ส่งเสริมเกื้อกูลต่อการฝึกอบรมจิต หรือต่อการปฏิบัติภาวนาทั้งสิ้น ผู้ใดสามารถสวดได้ประจำวัน โดยเฉพาะสวดก่อนนอนก็จะเป็นเครื่องบริหารจิต หรือพัฒนาจิตของตนเองได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะจำคำสอนของพระพูทธศาสนาไว้ได้แล้ว ก็ย่อมก่อให้เกิดบุญกุศลทุกครั้งที่ได้สวดด้วย ทั้งยังสามารถทำจิตให้สงบ สะอาด และเข้มแข็งขึ้นอีกด้วย แต่ในที่นี้จะนำมากล่าวเฉพาะที่จำเป็นมาก ซึ่งนักปฎิบัตินิยมใช้กันอยู่ และเกื้อกูลต่อการปฏิบัติกรรมฐานโดยตรงเท่านั้น
บทสวดมนต์ที่นำมาให้สวด มีทั้งบทสวดเพื่ออบรมสมถะหรือสมาธิ และบทสวดเพื่อเจริญวิปัสสนาหรือปัญญา
ในจำนวนบทสวดเหล่านี้ เป็นบทสวดเพื่อการเจริญสมาธิ ๕ บท

  • คำนมัสการพระรัตนตรัย
  • คำนมัสการพระพุทธคุณเบื้องต้น
  • บทสรรเสริญพระรัตนตรัย รตนัตตยาภิถุติ
  • พรหมวิหารภาวนา (การเจริญพรหมวิหาร)
  • ปัญจอภิณหปัจจเวกขณะ (ธรรมที่ควรพิจารณาเนืองๆ ๕ อย่าง)
  • กายคตาสติโดยย่อ(การพิจารณาร่างกายให้เห็นเป็นของไม่งาม)
  • มรณัสสติ (การระลึกถึงความตาย)
  • ติลักขณภาวนา (การอบรมจิตด้วยการเจริญพระไตรลักษณ์)
  • อาตุรกายภาวนา (การฝึกอบรมจิตในร่างกายป่วยหนัก)
  • ปัตติทานคาถา (คาถาในการให้ส่วนบุญ)
  • คำแผ่เมตตาและแผ่ส่วนกุศลโดยย่อ
  • คำบูชากราบพระหลังจากสวดมนต์จบแล้ว
เริ่มด้วยการจุดธูปเทียนบูชาพระ (หากมีธูปเทียนที่บูชาพระ และเวลาเพียงพอ)